พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า (หม่อมเจ้าภุชงค์ สิริวฑฺฒโน ป.ธ.๕) | พระสังฆาธิการ

พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า (หม่อมเจ้าภุชงค์ สิริวฑฺฒโน ป.ธ.๕)


 
ประสูติ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๐๒
พระชนมายุ ๗๗ พรรษา
ผนวช พ.ศ. ๒๔๒๒
พรรษา ๕๙
สิ้นพระชนม์ ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๐
สถิต วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร
ท้องที่ กรุงเทพมหานคร


VIEW : 1,883

เพิ่ม/แก้ไขข้อมูล

ประสูติกาล


     พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า มีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้าภุชงค์ เป็นพระโอรสพระองค์ใหญ่ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชมพูนุท กรมขุนเจริญผลพูลสวัสดิ์ กับหม่อมปุ่น ประสูติเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๐๒ แรม ๗ ค่ำ เดือนอ้าย ที่วังหน้าวัดราชบพิธฯ มุมถนนราชบพิธกับถนนเฟื่องนคร ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว


การศึกษาขณะเป็นฆราวาส

     เมื่อยังทรงพระเยาว์ได้ทรงศึกษาอักขรสมัยไทย ในสำนักเจ้าจอมมารดาสัมฤทธิ์ผู้เป็นย่า เมื่อเข้าพิธีเกสากันต์แล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้า ฯ ให้ไปศึกษาที่โรงเรียน Raffles เมืองสิงคโปร์ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๔ เป็นเวลา ๙ เดือน แล้วจึงเสด็จกลับพระนคร ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้ตั้งโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษสำหรับเจ้านายขึ้นแล้ว ก็ทรงเข้าศึกษาต่อที่นี่โดยไม่กลับไปสิงคโปร์อีก นอกจากนี้ยังทรงศึกษาอักษรขอมจากพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) จนผนวชในปี พ.ศ. ๒๔๑๖


ผนวช

     พ.ศ. ๒๔๑๖ เมื่อพระชนมายุได้ ๑๔ พรรษา ผนวชเป็นสามเณร ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นบวรรังษีสุริยพันธุ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ หม่อมเจ้าพระอรุณนิภาคุณากรเป็นพระกรรมวาจาจารย์ ผนวชแล้วประทับ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
     เมื่ออายุครบอุปสมบทในปี พ.ศ. ๒๔๒๒ ได้โปรดให้อุปสมบทที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีสมเด็จพระวันรัตน์ (ทับ พุทฺธสิริ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสาสนโสภณที่พระธรรมวโรดม (สา ปุสฺสเทโว) วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หม่อมเจ้าพระอรุณนิภาคุณากร เป็นพระบรรพชาจารย์ ได้รับพระนามฉายาว่า สิริวฑฺฒโน ผนวชแล้วกลับมาประทับที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามตามเดิม


การศึกษาขณะเป็นบรรพชิต

     ขณะเป็นสามเณรได้ศึกษาภาษาบาลีกับพระครูบัณฑรธรรมสโมทาน (สด) ภาษาไทยกับพระยาโอวาทวรกิจ (แก่น) และภาษาสันสกฤตกับพราหมณ์ เมื่อผนวชเป็นพระภิกษุแล้วได้ศึกษาพระปริยัติธรรมกับสมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทโว) ขณะทรงสมณศักดิ์เป็นพระธรรมวโรดม ทรงเข้าสอบเปรียญ ๒ ครั้ง ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๕ ได้เป็นเปรียญธรรม ๔ ประโยค
     ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๓๐ ทรงเข้าแปลได้เพิ่มอีก ๑ ประโยค รวมเป็นเปรียญธรรม ๕ ประโยค พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานวัตถุจัตุปัจจัยมูลค่า ๒ ชั่งเป็นรางวัล


พระปรีชาสามารถ

     พระองค์มีพระปรีชาสามารถทางพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง นับว่าเป็นปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญพระองค์หนึ่งของกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงนิพนธ์ตำรา และหนังสือสำคัญทางพระพุทธศาสนาไว้มากมาย เช่น คัมภีร์อภิธานัปปทีปิกา หรือพจนานุกรมภาษาบาลีแปลเป็นไทย มหานิบาตชาดก นิทานต้นบัญญัติ สามเณรสิกขา เป็นต้น พระนิพนธ์เหล่านี้ ยังใช้เป็นคู่มือในการศึกษาภาษาบาลี และศึกษาพระพุทธศาสนาของภิกษุสามเณรมาจนถึงปัจจุบัน ทรงเป็นเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุตสืบต่อจากสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ก่อน และทรงเป็นกรรมการชุดแรกของมหามกุฏราชวิทยาลัย ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๖ สุดท้ายได้เป็นนายกกรรมการมหามกุฏราชวิทยาลัยตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๖๔ ตราบจนสิ้นพระชนม์

     ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์โรงเรียนวัดราชบพิธ พระองค์ที่ ๒ ประทานคาถาภาษาบาลีเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจบรรดาครูและนักเรียนว่า "วิริเยน ทุกขมจฺเจติ" แปลว่า "คนล่วงทุกข์เสียได้ด้วยความเพียร" และได้ประทานตรา "ชส" ซึ่งเป็นพระนามย่อของพระองค์ให้แก่โรงเรียน ซึ่งปัจจุบัน ได้เป็นสัญลักษณ์บนเข็ม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียนแห่งนี้

ตำแหน่ง

ฝ่ายปกครอง

พ.ศ. ๒๔๔๔  เป็น เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
พ.ศ. ๒๔๖๔ - ๒๔๘๐  เป็น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
พ.ศ. ๒๔๖๕ - ๒๔๗๑  เป็น เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต

การสิ้นพระชนม์


     พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ประชวรด้วยพระโรคเส้นพระโลหิตในกระเพาะพระบังคนเบาพิการ ทำให้บังคนเบาเป็นโลหิต สิ้นพระชนม์เมื่อวันพุธที่ ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ แรม ๓ ค่ำ เดือน ๙ สิริรวมพระชนมายุได้ ๗๙ พรรษา ดำรงสมณเพศได้ ๕๙ พรรษา ได้รับพระราชทานเพลิงพระศพ เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๑ ณ พระเมรุวัดเทพศิรินทราวาส

สมณศักดิ์


พ.ศ. ๒๔๓๐ เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ ที่ หม่อมเจ้าพระสถาพรพิริยพรต
พ.ศ. ๒๔๓๘ เป็น พระราชาคณะผู้ใหญ่เสมอชั้นเทพ ในราชทินนามเดิม
๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๒ เป็น พระราชาคณะชั้นธรรม ที่ หม่อมเจ้าพระสถาพรพิริยพรต อังคีรสธรรมปาโมกข์ ยุตโยคยตินายก ไตรปิฎกธารี ธรรมวาทีคณฤศร บวรสังฆาราม คามวาสี
๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๙ เป็น พระราชาคณะเจ้าคณะรองในคณะกลาง มีสมณศักดิ์เสมอพระพรหมมุนี และมีพระอิสริยยศเป็นพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฏว่า พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพระสถาพรพิริยพรต อังคีรสสาสนธำรง ราชวรพงษ์ศักดิ์พิบุลย์ สุนทรอรรถปริยัติโกศล โสภณศีลสมาจารวัตร มัชฌิมคณานุนายก สาสนดิลกบพิตร
๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๕๓ เป็น สมเด็จพระราชาคณะเจ้าคณะใหญ่คณะกลาง ที่ พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นชินวรสิริวัฒน์ ขัตติยพงศ์พรหมจารี ประสาทนียคุณากร สถาพรพิริยพรต อังคีรสศาสนธำรง ราชวรวงศ์วิสุต วชิราวุธมหาราชอภินิษกรมณาจารย์ สุขุมญาณวิบุล สุนทรอรรถปริยัติโกศล โศภนศีลสมาจารวัตร มัชฌิมคณิศรมหาสังฆนายก พุทธศาสนดิลกสถาวีรบพิตร
๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ ทรงได้รับการสถาปนาเป็น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า สกลมหาสังฆปริณายก มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นชินวรศิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า นับว่าเป็นสมเด็จพระสังฆราชเจ้า พระองค์แรก
๒๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๙ โปรดให้เลื่อนพระอิสริยยศเป็นกรมหลวง มีพระนามว่า พระเจ้าวรวงศเธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน ขัติยมหาเจษฎานุพงศ อริยวงศาคตญาณวิมลสกลมหาสงฆปรินายก ตรีปิฎกกลาโกศล ภัทรผลพลูสวัสดิสัทธรรมทีปกร ไทวภราดรมหาราชาภินิษกรมณาจารย์ ภุชงคบุราภิธานครุฐานิยมมหาบัณฑิต สุขสิทธิหิตรรถเมตตาขันตยาศรัย ศรีรัตนตรัยศรณาภิรัต สยามาธิปัตยามหาสังฆปาโมกขประธานาธิบดี ศรีสมณุดมบรมบพิตร

ที่มา


wikipedia
ทำเนียบพระราชาคณะชาติภูมิกรุงเทพมหานคร


แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com

www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่

พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook