| 
 | 
VIEW : 1,702
เพิ่ม/แก้ไขข้อมูลสมัยก่อนบรรพชา ได้ช่วยบิดามารดาค้าขายทางเรือ ครั้งถึง พ.ศ. ๒๔๖๒ อายุได้ ๑๘ ปี จึงบรรพชาเป็นสามเณรในงานฌาปนกิจศพน้าสาวที่วัดราษฎรบำรุง พระอาจารย์อ้วน วัดสามทอง เวลานี้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดตรีสุวรรณ์ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์
เมื่อบรรพชานั้นท่านยังไม่รู้หนังสือเลย ครั้นบวชเป็นสามเณรแล้ว ได้เห็นการเรียนหนังสือของพระภิกษุสามเณรและเด็กที่วัดราษฏรบำรุง มีความปรารถนาอยากจะเรียนบ้าง แต่อายุมากแล้ว เข้าเรียนไม่สะดวก ในสมัยนั้นพระใบฎีกาอินทร์ เป็นเจ้าอาวาส จึงแนะนำให้เรียนหนังสือขอม ท่านได้ขออนุญาตโยมบวชต่อ โยมก็อนุญาต แต่โบราณถือว่าการบวชหน้าไฟร้อน จึงให้ลาสิกขา และบรรพชาใหม่ติดต่อกันไป โดยพระใบฎีกาอินทร์ เจ้าอาวาสวัดราษฎรบำรุง เป็นพระอุปัชฌาย์
เมื่อบรรพชาใหม่แล้วท่านได้เริ่มเรียนหนังสือขอม และหาโอกาสไปฟังการเรียนหนังสือไทยบ้าง พออ่านหนังสือขอมได้และหัดเขียดหนังสือไทยได้บ้างแล้ว จึงเริ่มเรียนสนธิ์ โดยมีพระอาจารย์ทองเป็นผู้สอน การเรียนคราวนี้มีนักเรียนเพียงคนเดียว ทำให้รู้สึกเนือยๆ แต่ท่านก็เรียนจบในพรรษาแรกนั้นเอง เมื่อมี่ความรู้ขึ้นบ้างแล้วเช่นนี้ท่านก็มีความปรารถนาจะเรียนให้มากยิ่งขึ้น ประจวบกับเวลานั้นพระมหาพุ่ม วัดพระเชตุพนฯ ไปวัดราษฎรบำรุงกับพระมหาสุนทร ท่านจึงขอให้โยมยายช่วยฝากกับพระมหาพุ่ม เพื่อนำท่านมาอยู่กรุงเทพฯ แต่พระมหาพุ่มไม่สามารถรับได้เพราะไม่ได้เป็นเจ้าอาวาสหรือเจ้าคณะ โยมยายจึงให้น้าชายชื่อล้งนำท่านมาฝากไว้กับพระอธิการปอ ธมฺมกถิโก เจ้าอาวาสวัดพระพิเรนทร์ พระนครเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๓ รวมเวลาอยู่ที่วัดราษฎรบำรุง ๑ พรรษา
เมื่อมาอยู่วัดพระพิเรนทร์แล้ว ท่านได้เข้าศึกษาพระปริยัติธรรม ที่วัดจักรวรรดิราชาวาส และสอบได้นักธรรมชั้นตรีในปลายปีนั้นเอง ตัวท่านเคยเล่าว่า เวลานั้นเกิดความทะเยอทะยานในการศึกษาเล่าเรียนมาก อยากเรียนไปทุกอย่าง และรู้สึกเสียดายเวลาที่ผ่านพ้นไปมากแล้ว จึงได้เข้าเรียนภาษาบาลีที่วัดจักรวรรดิราชาวาสนั้นต่ออีก
ปีต่อมาท่านอายุครบ ๒๐ ปี จึงได้กลับไปอุปสมบทที่วัดเกาะ ตำบลบางงาม อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๕ โดยมี พระครูปลื้ม วัดพร้าว ตำบลโพธิ์พระยา อำเภอท่าพี่เลี้ยง ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นอำเภอเมืองจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นอุปัชฌาย์ พระครูธรรมสารรักษา วัดวรจันทร์ ตำบลโพธิ์พระยา เป็นกรรมวาจาจารย์ พระอธิการปอ ธมฺมกถิโก วัดพระพิเรนทร์ เป็นอนุสาวนาจารย์
เมื่ออุปสมบทแล้วได้กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดพระพิเรนทร์ และเรียนพระปริยัติธรรมทั้งนักธรรมและบาลีต่อ กับต้องช่วยพระอธิการปอ เจ้าอาวาส ในกิจการงานต่าง ๆ ของวัดเรื่อยมา
| พ.ศ. ๒๔๗๓ | เป็น กรรมการรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพระพิเรนทร์ | 
| พ.ศ. ๒๔๗๖ | เป็น เจ้าอาวาสวัดพระพิเรนทร์ | 
| พ.ศ. ๒๔๘๗ | เป็น กรรมการสงฆ์ องค์การสาธารณูปการ อำเภอป้อมปราบฯ เขตปทุมวัน | 
| พ.ศ. ๒๔๙๐ | เป็น พระอุปัชฌาย์ | 
| พ.ศ. ๒๔๙๔ - ๒๕๐๐ | เป็น รักษาการเจ้าอาวาสวัดชำนิหัตถการ | 
| พ.ศ. ๒๔๙๕ | เป็น กรรมการสงฆ์ องค์การปกครอง อำเภอป้อมปราบฯ เขตปทุมวัน | 
| พ.ศ. ๒๔๙๖ - ๒๕๐๗ | เป็น รักษาการเจ้าอาวาสวัดพลับพลาชัย | 
| พ.ศ. ๒๕๐๗ | เป็น รองเจ้าคณะภาค ๘ | 
| พ.ศ. ๒๕๐๘ | เป็น เจ้าคณะภาค ๘ | 
| พ.ศ. ๒๔๘๐ | เป็น กรรมการตรวจบาลีสนามหลวง | 
| พ.ศ. ๒๔๙๔ | เป็น เจ้าสำนักเรียนวัดพระพิเรนทร์ | 
| พ.ศ. ๒๔๙๕ | เป็น กรรมการศึกษาเทศบาล | 
| พ.ศ. ๒๔๙๕ | เป็น รักษาการกรรมการสงฆ์ องค์การศึกษา อำเภอป้อมปราบฯ เขตปทุมวัน | 
| พ.ศ. ๒๕๐๐ | เป็น กรรมการตรวจธรรมสนามหลวง | 
พระเทพคุณาธาร (ผล ชินปุตฺโต ป.ธ.๔) มรณภาพ ด้วยภาวะแพ้อากาศและหอบเหนื่อยที่โรงพยาบาลสงฆ์ เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ เวลา ๐๖:๒๐ นาฬิกา รวมอายุได้ ๖๘ ปี
วันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานน้ำหลวงสรงศพท่านเจ้าคุณพระเทพคุณาธาร และ วันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๔ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานเพลิงศพ ท่านเจ้าคุณพระเทพคุณาธาร โดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพนฯ ในฐานะประธานสหภูมิสุพรรณและองค์อุปถัมภ์สมาคมสุพรรณ พระนคร ได้โปรดเมตตาให้คณะสหภูมิสุพรรณและองค์อุปถัมภ์สมาคมสุพรรณ พระนคร เป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลทั้งหมดในวันพระราชทานเพลิงศพ
| พ.ศ. ๒๔๘๒        เป็น        
        
        พระครูสัญญาบัตร (พิเศษพัต จปร.)        
        ที่        พระครูศีลขันธโศภิต | 
| พ.ศ. ๒๔๙๐        เป็น        
        
        พระครูสัญญาบัตร        
        ในราชทินนามเดิม | 
| พ.ศ. ๒๔๙๔        เป็น        
        
        พระราชาคณะชั้นสามัญ        
        ที่        พระศีลขันธ์โศภิต | 
| ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๑        เป็น        
        
        พระราชาคณะชั้นราช        
        ที่        พระราชศีลโศภิต นิวิฐกรุณาทร ธรรมบัณฑิต ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี                		
       [1] | 
| ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๕        เป็น        
        
        พระราชาคณะชั้นเทพ        
        ที่        พระเทพคุณาธาร ไพศาลสุตาธิกร สุนทรศีลาจารวัตร พิพัฒน์หิตานุหิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี                		
       [2] | 
| 1. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักคณะรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๗๕, ตอนที่ ๑๐๙ ง, ๒๓ ธันวาคม ๒๕๑, หน้า ๓๑๓๕ | 
| 2. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๘๐, ตอนที่ ๓ ง, ๔ มกราคม ๒๕๖, หน้า ๓ | 
| ทำเนียบอดีตพระราชาคณะภาคตะวันตก | 
| wikipedia.org | 
แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com
www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
    ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่
  
พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
  สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com  
Facebook