พระราชปฏิภาณมุนี (เขิม เกสโร) | พระสังฆาธิการ

พระราชปฏิภาณมุนี (เขิม เกสโร)


 
เกิด ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๒๖
อายุ ๘๓ ปี
อุปสมบท ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๗
พรรษา ๖๓
มรณภาพ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๙
วัด วัดประพาสประจิมเขต
ท้องที่ พังงา
สังกัด มหานิกาย


VIEW : 1,084

เพิ่ม/แก้ไขข้อมูล

สถานะเดิม


     พระราชปฏิภาณมุนี มีนามเดิมว่า เขิม นามสกุล ณ นคร เกิดเมื่อ วันที่ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๒๖ ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๙ ปีมะแม เวลา ๑๕.๐๐ น. ณ บ้านตากแดด หมู่ที่ ๑ ตำบลตากแดด อำเภอเมือง จังหวัดพังงา เป็นบุตรของ นายพุ่ม - นางกิมเนี่ยว ณ นคร


การศึกษา

     ในวัยเด็กได้ศึกษาอักขระสมัยจนอ่านออกเขียนได้ทั้งอักษรไทย และขอม


บรรพชาอุปสมบท

     บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๔๓ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๖ ปีชวด (อายุ ๑๗ ปี)ณ วัดมงคลสุทธาวาส (วัดในโตน) โดยมี พระครูนุช เกสโร เป็นพระอาจารย์ในการบรรพชา

     อุปสมบท เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๗ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะโรง เวลา ๑๕.๑๐ น. ณ พัทธสีมา วัดมงคลสุทธาวาส (วัดในโตน) โดยมี พระครูนุช เกสโร วัดมงคลสุทธาวาส (วัดในโตน) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการแก้ว ธมฺมโชโต วัดประชุมโยธีฯ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัด หมุด อุปวฑฺฒโน (ต่อมาได้รับพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศเป็นพระครูสัญญาบัตร ที่ พระครูสตูลสมันตสมณมุนี เจ้าคณะแขวงจังหวัดสตูล) เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ตำแหน่ง

ฝ่ายปกครอง

พ.ศ. ๒๔๕๒ - ๒๔๗๗  เป็น เจ้าอาวาสวัดมงคลสุทธาวาส
พ.ศ. ๒๔๕๕  เป็น เจ้าคณะแขวงอำเภอท้ายช้าง และอำเภอทับปุด
พ.ศ. ๒๔๕๗  เป็น เจ้าคณะรองเมืองพังงา
พ.ศ. ๒๔๕๙  เป็น รองเจ้าคณะจังหวัดพังงา (ประกาศกระทรวงธรรมการ ได้เปลี่ยนคำว่า เมือง เป็น จังหวัด)
พ.ศ. ๒๔๖๔  เป็น รั้งเจ้าคณะจังหวัดพังงา
พ.ศ. ๒๔๖๕  เป็น เจ้าคณะจังหวัดพังงา
พ.ศ. ๒๔๗๐  เป็น พระอุปัชฌาย์ ในเขตจังหวัดพังงา
พ.ศ. ๒๔๗๗  เป็น เจ้าอาวาสวัดประพาสประจิมเขต

ฝ่ายการศึกษา

พ.ศ. ๒๔๖๒  เป็น กรรมการศึกษา ประจำจังหวัดพังงา
พ.ศ. ๒๔๗๗  เป็น ผู้อำนวยการศึกษาจังหวัดพังงา

งานเผยแผ่

พ.ศ. ๒๔๖๑  เป็น พระคณาจารย์ เทศนาสั่งสอนประชาชนในจังหวัดพังงา

ผลงาน


วัดมงคลสุทธาวาส (วัดในโตน)

  • พ.ศ. ๒๔๕๗ ได้จัดตั้งสำนักศึกษาพระปริยัติธรรมขึ้นเป็นแห่งแรกของจังหวัดพังงา
  • สร้างโรงเรียนประชาบาล ๑ โรง
  • สร้างกุฏิสำหรับเป็นที่พักพระสงฆ์สัญจร จำนวน ๑ หลัง ๓ ห้อง
  • สร้างศาลาหน้าประตูหน้าวัด ๑ ศาลา
  • สร้างกุฏิห้องแถว ๗ ห้อง ๑ หลัง
  • สร้างโรงฉันและโรงครัวติดต่อกัน ๒ หลัง
  • ขุดบ่อน้ำ ๔ เหลี่ยม ๑ ลูก
  • สร้างอุโบสถหลังใหม่ แทนอุโบสถหลังเก่าที่ชำรุด
  • ก่อเจดีย์ทางทิศตะวันตกอุโบสถ ๒ องค์
  • สร้างโรงน้ำร้อน ๑ หลัง

วัดประพาสประจิมเขต

  • พ.ศ. ๒๔๗๘ จัดสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรมขึ้น ๑ หลัง
  • พ.ศ. ๒๔๗๙ ท่านยังได้สร้างกุฏิขึ้นอีก ๑ หลัง ให้เป็นเสนาสนะคู่วัด
  • พ.ศ. ๒๔๘๑ ได้ก่อสร้างซุ้มพัทธสีมารอบอุโบสถ จำนวน ๘ ซุ้ม และสร้างหอระฆัง ๑ หอ
  • พ.ศ. ๒๔๘๒ ได้สร้างกำแพงแก้วรอบพัทธสีมาอุโบสถ
  • พ.ศ. ๒๔๘๔ นายล่อง นางเอ้ง บุญรักษ์ ได้สร้างห้องน้ำห้องส้วมถวายท่าน และได้สร้างโรงครัวอีก ๑ หลัง ไว้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
  • ช่วง พ.ศ. ๒๔๙๑-๒๔๙๓ได้สร้างกุฏิที่พักสงฆ์ จำนวน ๕ หลัง
  • ช่วง พ.ศ. ๒๔๙๕-๒๔๙๗ สร้างศาลาการเปรียญ ๑ หลัง
  • ช่วง พ.ศ. ๒๔๙๘-๒๕๐๖ ดำเนินการก่อสร้างอุโบสถ โดยได้วางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ ๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๘ โดยเงินสนับสนุนจากรัฐบาล เงินจัดงานประจำปี เงินบริจาครวมทั้งเงินทำบุญจากญาติโยมต่างๆ รวมทั้งเงินส่วนตัวท่าน แต่ยังไม่เสร็จเรียบร้อย

มรณกาล


     เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๙ พระราชปฏิภาณมุนี (เขิม เกสโร) ได้อาพาตด้วยโรคอัมพาตในเวลาชั่วครู่ ได้นำส่งโรงพยาบาลพังงา ได้ทำหารรักษาและอาการได้ดีขึ้นตามลำดับ ต่อมาอาการกลับทรุดลงอีกในเวลาอันรวดเร็ว และได้มรณภาพด้วยอาการอันสงบ เมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๙ เวลา ๑๖.๐๐ น. ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะเมีย สิริอายุ ๘๓ ปี ย่างเข้าสู่ปีที่ ๘๔ พรรษาที่ ๖๓ ยังความโศกเศร้าเสียใจแต่หมู่ศิษยานุศิษย์ นับว่าเป็นการสูญเสียพระอริยสงฆ์ผู้ทรงคุณแห่งจังหวัดพังงา ต่อมาได้มีการบำเพ็ญกุศลศพเป็นเวลาระยะหนึ่ง และได้ปิดศพไว้เป็นเวลา ๘ ปีเศษ

     ต่อมาปลายเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๑๗ ได้จัดงานพิธีพระราชทานเพลิงศพ ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ พระราชทานกล่องเพลิงเพื่อใช้ในการพระราชทานเพลิงศพ พระราชปฏิภาณมุนี ณ เมรุพิเศษ วัดประพาสประจิมเขต จังหวัดพังงา ในวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๗ เวลา ๑๖.๓๐ น.

สมณศักดิ์


พ.ศ. ๒๔๕๓ เป็น พระสมุห์ ฐานานุกรมใน พระอริยกวี (เซ่ง อุตฺตโม) วัดราชาธิวาส กทม. เจ้าคณะมณฑลภูเก็ต (ต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ที่ พระธรรมวโรดม เจ้าคณะรองคณะใต้)
๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๕๗ เป็น พระครูสัญญาบัตร ที่ พระครูสุทัศน์ธรรมคุณ เจ้าคณะรองเมืองพังงา
๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๒ เป็น เจ้าคณะจังหวัดชั้นเอก ที่ พระครูปฏิภาณพังงารัฐ สังฆวาหะ เจ้าคณะจังหวัดพังงา
๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๘ เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระปฏิภาณพังงารัฏฐ์ สีลาจารวัตต์ ธุรวาหวาที สังฆปาโมกข์
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็น พระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชปฏิภาณมุนี สมณธรรมจารีวิมล สกลพังงารัฐคณาธิกร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี [1]

ที่มา


1. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักคณะรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๗๔, ตอนที่ ๑๐๗ ง, ๑๗ ธันวาคม ๒๕๐๐, หน้า ๒๙๕๓
เพจ บุญตา แอนติค
ข้อมูลจากหนังสือพระราชทานเพลิงศพ พระราชทานเพลิงศพ พระราชปฏิภาณมุนี ณ เมรุพิเศษ วัดประพาสประจิมเขต จังหวัดพังงา ในวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๗.
ข้อมูลจากหนังสือประวัติวัดจังหวัดพังงา สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดพังงา พ.ศ. ๒๕๒๐.

ผู้แนะนำข้อมูล


จักรกฤษณ์ แขกฮู้ นักวิชาการวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี : เรียบเรียง
เกรียงศักดิ์ เมฆสุข : เรียบเรียง


แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com

www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่

พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook