พระพรหมมุนี (เหมือน สุมิตฺโต ป.ธ.๙) | พระสังฆาธิการ

พระพรหมมุนี (เหมือน สุมิตฺโต ป.ธ.๙)


 
เกิด ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๓๖๗
อายุ ๗๖ ปี
อุปสมบท พ.ศ. ๒๓๘๖
มรณภาพ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๔๒
วัด วัดบรมนิวาส ราชวรวิหาร
ท้องที่ กรุงเทพมหานคร
สังกัด ธรรมยุติกนิกาย


VIEW : 982

เพิ่ม/แก้ไขข้อมูล

สถานะเดิม


     พระพรหมมุนี มีนามเดิมว่า เหมือน เกิดเมื่อวันเสาร์ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะแม ตรงกับวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๓๖๖ (นับตามแบบปัจจุบันตรงกับปี พ.ศ. ๒๓๖๗) ได้ฝากตัวเป็นศิษย์สมเด็จพระวันรัตน์ (ทับ พุทฺธสิริ) ตั้งแต่ท่านยังดำรงสมณศักดิ์ที่พระอริยมุนี อยู่วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร (บิดาของพระพรหมมุนีเป็นพี่ชายของมารดาสมเด็จพระวันรัตน์) ต่อมาสมเด็จพระวันรัตน์ได้นำท่านไปฝากเป็นศิษย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่ยังทรงผนวชประทับ ณ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร


อุปสมบท

     อุปสมบท เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๘๖ ณ อุทกุกเขปสีมา หน้าวัดราชาธิวาส โดยมี พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระอุปัชฌาย์ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทโว) เมื่อดำรงสมณศักดิ์ที่พระอมรโมลี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ อุปสมบทแล้วกลับไปศึกษาที่สำนักของพระอริยมุนี (ทับ พุทฺธสิริ) ตามเดิม


การศึกษา

     ในสมัยรัชกาลที่ ๓ พระพรหมมุนีได้เข้าสอบบาลีครั้งแรกที่วัดราชบุรณราชวรวิหาร แต่สอบไม่ผ่าน ภายหลังได้เข้าสอบอีกที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ได้เป็นเปรียญธรรม ๕ ประโยค ถึงรัชกาลที่ ๔ ได้เข้าสอบอีกครั้งที่พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท ได้เพิ่มอีก ๔ ประโยค รวมเป็นเปรียญธรรม ๙ ประโยค

ตำแหน่ง

ฝ่ายปกครอง

พ.ศ. ๒๔๑๓ - ๒๔๔๔  เป็น เจ้าอาวาสวัดบรมนิวาสราชวรวิหาร

มรณกาล


     พระพรหมมุนี (เหมือน สุมิตฺโต ป.ธ.๙) อาพาธเป็นโรคลมมานาน จนเมื่อวันศุกร์ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๓ ปีจอ ตรงกับวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ร.ศ. ๑๑๗ พ.ศ. ๒๔๔๑ (นับตามแบบปัจจุบันตรงกับปี พ.ศ. ๒๔๔๒) เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ ท่านเริ่มเป็นลมและอาเจียน ๒-๓ ครั้ง ขุนศรีสุริยแพทย์ประกอบยาถวาย แต่อาการไม่ทุเลา จนถึงแก่มรณภาพเมื่อเวลา ๒๒.๑๐ น. สิริอายุได้ ๗๖ ปี ได้รับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ โกศโถ ฉัตรเบญจา และพระสวดอภิธรรมตลอด ๓ เดือนเป็นเกียรติยศ โดยมีพระเถรานุเถระในคณะธรรมยุติกนิกายช่วยกันจัดงานศพ

สมณศักดิ์


เป็น พระปลัด ฐานานุกรมใน พระอริยมุนี (ทับ พุทฺธสิริ)
พ.ศ. ๒๔๐๑ เป็น พระราชาคณะ ที่ พระอริยมุนี รับพัดยศเป็นตาลปัตรแฉก พื้นกำมะหยี่หักทองขวาง และมีนิตยภัตเดือนละ ๔ ตำลึง
พ.ศ. ๒๔๒๐ เป็น พระราชาคณะ ที่ พระเทพโมฬี ตรีปิฎกธรา มหาธรรมกถึกคณาฤศร บวรสังฆารามคามวาสี รับพัดยศเป็นตาลปัตรแฉกพื้นกำมะหยี่หักทองขวางประดับพลอย และมีนิตยภัตเดือนละ ๔ ตำลึงกึ่ง มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ ๔ รูป
๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๓๑ เป็น พระราชาคณะเสมอตำแหน่งธรรม ที่ พระพรหมมุนี คัมภีรญาณนายก ตรีปิฎกคุณาลังกรมหาคณฤศร บวรสังฆารามคามวาสี มีนิตยภัตราคาเดือนละ ๔ ตำลึง ๓ บาท มีถานานุศักดิ์ตั้งถานานุกรมได้ ๕ รูป รับพัดยศเป็นตาลปัตรแฉกพื้นโหมดสลับแพร
๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๔ เป็น เสมอพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ในราชทินนามเดิม ได้เพิ่มนิตยภัตเป็นเดือนละ ๕ ตำลึงกึ่ง และเพิ่มฐานานุศักดิ์ให้ตั้งฐานานุกรมได้ ๘ รูป รับตาลปัตรแฉกพื้นตาดสลับโหมดและแพรปักเลื่อมเป็นเครื่องยศ
๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๓๗ เป็น พระราชาคณะเจ้าคณะรองในคณะกลาง มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฏว่า พระพรหมมุนี ศรีวิสุทธิญาณนายก ตรีปิฎกธรรมาลงกรณ์ มัชฌิมคณฤศร บวรสังฆารามคามวาสี นิตยภัตราคาเดือนละ ๖ ตำลึง มีถานานุศักดิ์ตั้งถานานุกรมได้ ๘ รูป รับหิรัญบัฏจารึกราชทินนาม และตาลปัตรแฉกพื้นตาดสีเป็นเครื่องยศ

ที่มา


wikipedia.org


แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com

www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่

พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook