๑. พ่อท่านเชื่อง สุทนฺโต
     ๒. นายพิน แก้วนก
     ๓. ด.ญ.พร้อม แก้วนก
     ๔. นางพริ้ม สุขจันทร์
     ๕. นางบุญเจือ มีแสง

     ในวัยเด็กของท่านครอบครัวได้พาย้ายมาอยู่ที่บ้านเนินสำโรง ตำบลปากพนังฝั่งตะวันออก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงศึกษาในโรงเรียนเทศบาลปากพนัง ๑ ตำบลปากพนังฝั่งตะวันออก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชในปัจจุบัน จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จากนั้นได้บรรพชาเป็นสามเณร

     อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ (อายุ ๒๒ ปี) ณ พัทธสีมาวัดรามประดิษฐ์ ตำบลบางพระ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมี พระครูบริหารสังฆกิจ (เต้ง เขมงฺกโร) วัดรามประดิษฐ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระธรรมปาลาจารย์ (ชู อรุโณ) วัดพระนคร ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพระกรรมวาจารย์ พระครูนิพิษฐ์ธรรมาราม (เลื่อน) วัดเขาน้อย ตำบลร่อนพิบูลย์ อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางมคธภาษาว่า "สุทนฺโต" แปลว่า "ผู้ประเสริฐดีแล้ว"

     หลังจากที่พ่อท่านเชื่องบวชพระแล้ว ท่านก็จำพรรษาอยู่ วัดรัตนารามมาโดยตลอด ในหมู่ศิษยานุศิษย์มักรู้ดีว่า พ่อท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่มีความเมตตากรุณามาก สิ่งหนึ่งที่ทำให้พ่อท่านเป็นที่ประหลาดใจต่อคนทั่วไปคือ ด้วยความที่ดวงตาท่านบอดสนิททั้ง ๒ ข้าง แต่ความทรงจำดีเลิศ ซึ่งตำราเล่มหนาๆ ท่านสามารถบอกได้ว่าบทไหนอยู่หน้าอะไร และบรรทัดที่เท่าไหร่ นอกนี้ท่านยังเป็นพระผู้ปฏิบัติเคร่งครัดต่อพระธรรมวินัยยิ่ง ชอบความสมถะ ชอบประพฤติธรรมเป็นนิจ ไม่ชอบความเอิกเกริกวุนวาย ไม่อยากเด่น ไม่ต้องการลาภยศชื่อเสียง

     แม้ดวงตาพ่อท่านเชื่องจะมืดมองไม่เห็น แต่ในหมู่ลูกศิษย์ทั่วไปเชื่อว่า ด้านจิตใจของท่านสว่างแจ้งจนหาผู้เสมอเหมือน ถือเป็นพระเถระที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทจิตสนิทใจอีกรูปหนึ่งของเมืองไทย