พระครูสุวรรณโอภาส (เคลื่อน ฐิตวณฺโณ) | พระสังฆาธิการ

พระครูสุวรรณโอภาส (เคลื่อน ฐิตวณฺโณ)


 
เกิด พ.ศ. ๒๔๕๗
อายุ ๖๙ ปี
อุปสมบท พ.ศ. ๒๔๗๘
พรรษา ๔๘
มรณภาพ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๖
วัด วัดสมัยสุวรรณ
ท้องที่ สุราษฎร์ธานี
สังกัด มหานิกาย


VIEW : 624

เพิ่ม/แก้ไขข้อมูล

สถานะเดิม


     พระครูสุวรรณโอภาส มีนามเดิมว่า เคลื่อน เพชรคงทอง เกิดเมื่อ วันพุธ ปี พ.ศ. ๒๔๕๗ ปีขาล ณ บ้านปลายศอก ปัจจุบันอยู่มนพื้นที่ ม.๓ ตำบลสองแพรก อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นบุตรของนายเย็น นางทอง เพชรคงทอง

มีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๒ คน คือ
     ๑. นางทับจันทร์ (เสียชีวิตหลังพ่อท่านเคลื่อน)
     ๒. พระครูสุวรรณโอภาส (เคลื่อน เพชรคงทอง)

     เมื่อวัยเยาว์ท่านได้อาศัยอยู่กับบิดามารดา ต่อมาเมื่ออายุได้สิบกว่าปี ได้มีนางพลอย กับนายคิว สองสามีภรรยาได้รับไปเลี้ยงดู ณ ตลาดท่าข้าม อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ไปช่วยขายของ ท่านมิได้เข้าเรียนหนังสือแต่ประการใด ต่อมาอายุ ๑๖-๑๗ ปี ได้กลับไปอยู่กับบิดามารดา ต่อมา บิดามารดาของท่านก็ได้เสียชีวิตลงทั้งคู่ เมื่อท่านอายุ ๑๘-๑๙ ปี ท่านก็ได้ใช้ชีวิตอยู่กับพี่สาว (นางทับจันทร์) เรื่อยมา ต่อมาท่านอยากเรียนหนังสือ ท่านได้นึกถึงนายขอม หลานของท่าน (นายขอม รัตนพงศ์) ซึ่งนายขอมได้เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ท่านจึงได้รับนายขอมมาให้ช่วยสอนหนังสือ สอนได้ประมาณ ๑ เดือนพอที่ท่านจะอ่านออกเขียนได้ ต่อมาพี่สาวของท่านให้ท่านได้แต่งงานกับนางแดง เป็นชาวต้นพง จนกระทั่งนางแดงได้ตั้งท้อง ได้ ๓ เดือน แต่ท่านคิดจะอุปสมบท ท่านก็ได้ละทิ้งภาระทางบ้านและก็ได้เข้ามาอยู่วัด ณ วัดสมัยสุวรรณ หรือสมัยนั้นเรียกวัดโตรม ในสมัยที่ พระอธิการร่ม อินฺทสโร เป็นเจ้าอาวาส ต่อมาก็ได้อุปสมบท ส่วนทางบ้าน นางแดง ภรรยาของท่านสมัยเป็นฆราวาส ก็ได้คลอดบุตรชาย ชื่อ ด.ช.คลื่น เพชรคงทอง

     *** นายคลื่น เพชรคงทอง บุตรชายพ่อท่านเคลื่อน (ขลุด) วัดโตรม สืบทราบได้ว่าได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อ ๖-๗ ปีก่อน (ปัจจุบัน พ.ศ. ๒๕๖๔) และปัจจุบัน ลูกหลานของท่านก็ได้อุปัฏฐากดูเเลวัดสมัยสุวรรณอยู่ตลอด


อุปสมบท

     อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่ออายุ ๒๑ ปี พ.ศ. ๒๔๗๘ ณ พัทธสีมาวัดสมัยสุวรรณ (วัดโตรม) โดยมี พระอธิการร่ม อินฺทสโร เจ้าคณะหมวดสองแพรก วัดสมัยสุวรรณ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระใบฎีกาเรือง จนฺทสโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสนิท ยโสธโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางธรรมว่า “ฐิตวณฺโณ

     เมื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุได้ประมาณ ๒ พรรษา พระอธิการร่ม พระอาจารย์ของท่านก็ได้มรณภาพลงด้วยวัณโรค โดยหลวงพ่อร่มได้ถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ ตรงกับวันศุกร์ แรม ๖ ค่ำ เดือน ๑(อ้าย) ปีฉลู สิริอายุ ๖๔ ปี ๔๔ พรรษา ต่อมาทางคณะสงฆ์ ได้นิมนต์พระชื่น ฐิตธมฺโม หรือ พระครูนิคมคณาศัย มาเป็นเจ้าอาวาสวัดโตรม ต่อจากพระอธิการร่ม และเวลาต่อมาท่านก็ได้เป็นรองเจ้าอาวาสวัดโตรม ในสมัยพี่พระอธิการชื่น เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งพ่อท่านชื่นมีความอาวุโสกว่าพ่อท่านเคลื่อน ๘ ปี กล่าวคือ พ่อท่านชื่นท่านกำเนิดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๙ ซึ่งต่อมา พ่อท่านชื่นก็ได้รับสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตร มีราชทินนามว่า พระครูนิคมคณาศัย และได้ตั้งพระเคลื่อน เป็นพระฐานานุกรมตลอดมาจนถึงพระปลัด ต่อมาพ่อท่านชื่นได้ย้ายไปครองวัดย่านดินแดง ซึ่งก่อนที่พ่อท่านชื่นจะไปครองวัดย่านดินแดงนั้นท่านได้สร้างหอฉันขึ้น ๑ หลัง ขนาดกว้าง ๖ วา ยาว ๑๐ วา แต่การสร้างยังไม่เรียบร้อย พระเคลื่อนในสมัยนั้นก็ได้สร้างต่อเติมจนแล้วเสร็จ และวัดสมัยสุวรรณ ก็มีพระปลัดเคลื่อน เป็นเจ้าอาวาสสืบต่อ และต่อมาก็ได้เป็นพระครูสัญญาบัตร มีราชทินนามว่า พระครูสุวรรณโอภาส เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๖ และได้ครองวัดสืบต่อมาจวบจนมรณภาพ

     พ่อท่านเคลื่อน หรืออีกนามเรียกท่านว่า พ่อท่านขลุด ท่านเป็นพระนักพัฒนา ในสมัยก่อน อำเภอพระแสงเป็นที่ทุรกันดาร สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆยังไม่เจริญเหมือนสมัยนี้ พ่อท่านเคลื่อน หรือพ่อท่านขลุด วัดสมัยสุวรรณ ได้ร่วมมือกับผู้นำชุมชน และประชาชนร่วมกันสร้างถนน บริจาคเงินเพื่อสาธารณประโยชน์ต่างๆมากมาย ทั้งยังเป็นศิษย์ก้นกุฏิผู้ที่ศึกษาวิชาอาคมจากพ่อท่านร่ม อดีตเจ้าอาวาสวัดสมัยสุวรรณ พระอาจารย์ที่ท่านเคารพยิ่งอีกด้วย เครื่องรางของขลังที่ท่านสร้างและสร้างชื่อให้ท่านคือ ตะกรุดไม้ไผ่ตัน ซึ่งท่านได้ทำแจกเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ ที่มาปฏิบัติหน้าที่ มีพุทธคุณด้านคุ้มครองป้องกัน ส่วนเหรียญขนาดห้อยคอนั้น ได้สร้างขึ้นหลังจากที่ท่านมรณภาพไปแล้ว ระบุ พ.ศ. ๒๕๒๙ ซึ่งเป็นปีที่พระราชทานเพลิงศพ คาดว่า ได้ออกเป็นที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพของท่าน

     เมื่อช่วงปี พ.ศ. ๒๕๑๒ - ๒๔๑๖ วัดสมัยสุวรรณ ได้มีความเกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ และ เมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระนางเจ้าราชินีนาถในรัชกาลที่ ๙ เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกร ชุมชนบ้านโตรม และ วัดสมัยสุวรรณ (วัดโตรม) พระองค์ได้มีประราชปฏิสันถารกับพระครูสุวรรณโอภาส และเสด็จฯ ทรงกราบพระประธาน (หลวงพ่อเพชร) วัดสมัยสุวรรณ ซึ่งพระพุทธรูปประธานวัดสมัยสุวรรณ หรือ หลวงพ่อเพชร นั้น ได้ปั้นขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๖ โดยเป็นฝีมือของ พ่อท่านร่ม อินฺทสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดสมัยสุวรรณ และ พ่อท่านคล้าย จนฺทสุวณฺโณ วัดสวนขัน จ.นครศรีธรรมราช ดังปรากฏรูปถ่ายให้ได้เห็นกันโดยทั่วไป ณ วัดสมัยสุวรรณ ในการนี้ พระครูสุวรรณโอภาสได้ถวายพระพุทธรูปขนาดบูชา ๑ องค์ และก่อนที่จะเสด็จฯ กลับ พระองค์ได้ถวายปัจจัยส่วนพระองค์ แก่พระครูสุวรรณโอภาส จำนวนเงิน ๘,๐๐๐ บาท และตรัสว่า ถ้าพระครูสุวรรณโอภาสต้องการอะไร ให้ทำหนังสือถึงเลขาธิการพระราชวัง ต่อมาประมาณเดือนเศษ หลังจากที่เสด็จฯ กลับ ท่านได้ปรึกษากับนายขอม รัตนพงศ์ และพระครูนิคมคณาศัย (ชื่น ฐิตธมฺโม) เจ้าคณะอำเภอพระแสง วัดย่านดินแดง ว่าจะขอตั้งกิ่งอำเภอขึ้นในตำบลสองแพรก และได้ทำหนังสือขึ้นสู่เลขาธิการพระราชวัง พระองค์ทรงอนุมัติให้ตั้งกิ่งอำเภอขึ้น และแบ่งตำบลสองแพรกออกเป็นสองตำบล คือ ตำบลสองแพรก และ ตำบลชัยบุรี (สมัยนั้นขึ้นอยู่กับอำเภอพระแสง) ต่อมาไม่นานกระทรวงมหาดไทยได้อนุมัติให้เปิดที่ทำการกิ่งอำเภอ พร้อมด้วยคุรุภัณฑ์ทางราชการ ทั้งนี้พระครูสุวรรณโอภาสก็ได้ปรึกษากับกำนันผู้ใหญ่บ้านช่วยกันหาคุรุภัณฑ์เพิ่มเติมอีกด้วย จนได้เปิดทำการ โดยท่านอนุญาตให้ใช้สถานที่หอฉันของวัดสมัยสุวรรณ เป็นที่ทำการชั่วคราว

     ต่อมาท่านก็ได้ออกหาที่จัดตั้งที่ทำการกิ่งอำเภออย่างถาวร โดยได้ที่ราชพัสดุของโรงเรียนวัดสมัยสุวรรณและที่บูรณะชนบทของหมู่ที่ ๑ ตำบลสองแพรก ซึ่งอยู่ติดต่อกัน มีเนื้อที่ประมาณ ๑๐๐ ไร่ ท่านได้ช่วยลงแรงเกณฑ์ชาวบ้านช่วยถากถาง ในเวลาต่อมา ที่ทำการกิ่งอำเภอ ก็ได้ไปตั้ง ณ หมู่ที่ ๑ ตำบลชัยบุรี ถึงตอนนี้ท่านก็ได้พัฒนาร่วมกับผู้หลักผู้ใหญ่ในตำบลมาตลอด เป็นเรี่ยวแรงหลักในการตั้งกิ่งอำเภอ จนได้ตั้งเป็นกิ่งอำเภอชัยบุรี เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๔ หลังจากนั้นอีก ๒ ปี (พ.ศ. ๒๕๒๖) ท่านก็ได้มรณภาพด้วยโรคลมปัจจุบัน

     ท้องที่อำเภอชัยบุรีเดิมเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอพระแสง ทางราชการได้แบ่งพื้นที่การปกครองอำเภอพระแสง ออกมาตั้งเป็นกิ่งอำเภอชัยบุรี ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๔ โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ ๑๗ มีนาคม ปีเดียวกัน (พ.ศ. ๒๕๒๔) และต่อมาได้มีพระราชกฤษฎีกายกฐานะกิ่งอำเภอชัยบุรี อำเภอพระแสง ขึ้นเป็น อำเภอชัยบุรี ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๓ มิถุนายน ปีเดียวกัน (พ.ศ. ๒๕๓๗)

ตำแหน่ง

ฝ่ายปกครอง

ประมาณ พ.ศ. ๒๔๘๓  เป็น รองเจ้าอาวาสวัดสมัยสุวรรณ
พ.ศ. ๒๕๐๒  เป็น เจ้าอาวาสวัดสมัยสุวรรณ
พ.ศ. ๒๕๐๓  เป็น เจ้าคณะตำบลสองแพรก
พ.ศ. ๒๕๑๘  เป็น พระอุปัชฌาย์

มรณกาล


     พระครูสุวรรณโอภาส (เคลื่อน ฐิตวณฺโณ) หรือ พ่อท่านขลุด ได้อาพาธเป็นลมปัจจุบัน และคณะศิษยานุศิษย์ได้นำท่านส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ท่านได้พักรักษาอาการอยู่เพียง ๗ วัน ก็ได้ถึงแก่มรณภาพ ณ โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๖ สิริอายุ ๖๙ ปี พรรษา ๔๘ สร้างความเศร้าโศกเสียใจแก่บรรดาศิษยานุศิษย์เป็นอย่างยิ่ง จ่อมาได้นำสรีระท่านไปสรงน้ำศพ ณ วัดไทร บ้านดอน และได้ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ณ วัดไทร ๑ คืน พอวันรุ่งขึ้นก็ได้นำศพกลับสู่วัดสมัยสุวรรณ (วัดโตรม) เพื่อจัดงานบำเพ็ญกุศล โดยมี พระครูนิคมคณาศัย (ชื่น ฐิตธมฺโม) เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักร่วมกับเหล่าศิษยานุศิษย์ จัดบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา ๗ คืน ต่อจากนั้นได้ ปิดศพไว้รอรับการพระราชทานเพลิงศพ และได้มีการจัดสวดอภิธรรมศพอุทิศถวายทุกเดือน และได้สร้างศาลาขึ้นใหม่ในการจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพในการนี้ด้วย ระยะเวลาผ่านไป ๓ ปี เมื่อทุกอย่างพร้อมก็ได้กำหนดจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เป็นจำนวน ๗ คืน โดยเริ่มวันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๙ จนถึงวันพระราชทานเพลิงศพพระครูสุวรรณโอภาส วันที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๙

สมณศักดิ์


๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ เป็น พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบล ชั้นตรี ที่ พระครูสุวรรณโอภาส

ที่มา


ข้อมูลประวัติพระครูสุวรรณโอภาส เขียนโดย นายขอม รัตนพงค์ ในหนังสือที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพ พระครูสุวรรณโอภาส วัดสมัยสุวรรณ ๒๑-๒๖ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๙ โดยการอนุเคราะห์ข้อมูลจาก พระปลัดปริเชต กิตฺติสมฺปนฺโน สำนักสงฆ์บ้านปลายศอก อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี ปริเชต รักษายศ.
ภาพและข้อมูลบางประการจากกลุ่มศรัทธาบารมีหลวงพ่อร่ม,พระครูสุวรรณโอภาส วัดสมัยสุวรรณ ใน facebook.

ผู้แนะนำข้อมูล


จักรกฤษณ์ แขกฮู้ นักวิชาการวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี : เรียบเรียง/เผยแพร่


แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com

www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่

พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook