พระราชอุดมมงคล วิ. (เอหม่อง อุตฺตมรมฺโภ) | พระสังฆาธิการ

พระราชอุดมมงคล วิ. (เอหม่อง อุตฺตมรมฺโภ)


 
เกิด ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๓
อายุ ๙๗ ปี
อุปสมบท พ.ศ. ๒๔๗๒
พรรษา ๗๗
มรณภาพ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๙
วัด วัดวังก์วิเวการาม
ท้องที่ กาญจนบุรี
สังกัด มหานิกาย (รามัญนิกาย)


VIEW : 1,111

เพิ่ม/แก้ไขข้อมูล

สถานะเดิม


     พระราชอุดมมงคล วิ. เดิมชื่อ เอหม่อง เกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๓ ที่หมู่บ้านโมกกะเนียง ตำบลเกลาสะ อำเภอเย จังหวัดเมาะลำเลิง ประเทศพม่า เป็นบุตรคนโตในครอบครัวเชื้อสายมอญ จำนวน ๑๒ คน ของนายโง และนางทองสุก


บรรพชาและอุปสมบท

     เมื่ออายุ ๑๘ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดเกลาสะ

     อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดเกลาสะ ได้รับฉายาว่า อุตตมรัมโภ แปลว่า ผู้มีความพากเพียรอันสูงสุด โดยได้ตั้งเจตจำนงที่จะบวชไม่สึกจนตลอดชีวิต


การศึกษา

     หลังจากบรรพชาเป็นสามเณร ได้ศึกษาภาษาบาลี และพระปริยัติธรรมจนสอบได้นักธรรมชั้นโท

     เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕ สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก จากสำนักเรียนวัดปราสาททอง อำเภอเย จังหวัดมะละแหม่ง ต่อมา พ.ศ. ๒๔๘๔ สอบได้เปรียญธรรม ๘ ประโยค ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของคณะสงฆ์ในประเทศพม่า ที่สำนักเรียนวัดสุขการี อำเภอสะเทิม จังหวัดสะเทิม อุตตมรัมโภภิกขุจึงได้เดินทางไปศึกษาวิปัสสนากรรมฐานที่วัดตองจอย และวัดป่าเลไลยก์ จนมีความรู้ความสามารถในเรื่องวิปัสสนากรรมฐาน ตลอดจนวิชาไสยศาสตร์และพุทธาคมเป็นอย่างดี และชอบออกเดินธุดงค์ไปตามที่ต่าง ๆ ในประเทศพม่า

     อุตตมรัมโภภิกขุเข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกทางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๖ โดยเดินธุดงค์มาจำพรรษาอยู่ที่วัดสวนดอก ก่อนจะออกธุดงค์ไป แม่ฮ่องสอน ตาก เชียงราย น่าน กาญจนบุรี

     เนื่องจากเหตุการณ์บ้านเมืองในประเทศพม่าขณะนั้น อุตตมรัมโภภิกขุจึงเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยอีกครั้งทางหมู่บ้านอีต่อง ตำบลปิล็อก อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดเกาะ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี มีคนมาแจ้งข่าวว่าที่สังขละบุรีมีชาวมอญจากบ้านเดิมของท่าน อพยพเข้าเมืองไทย และต้องการนิมนต์ท่านไปเยี่ยม ท่านได้พบกับชาวมอญที่อพยพมาจากโมกกะเนียง เจ้าคะเล และมะละแหม่ง และพาชาวมอญเหล่านี้ไปอาศัยอยู่ที่บ้านวังกะล่าง ถือเป็นจุดกำเนิดของชุมชนชาวมอญในสังขละบุรี

     ในปี พ.ศ. ๒๔๙๙ หลวงพ่ออุตตมะร่วมกับชาวบ้านชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ ได้พร้อมใจกันสร้างศาลาวัดขึ้น มีฐานะเป็นสำนักสงฆ์ แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่า วัดหลวงพ่ออุตตมะ ตั้งอยู่บนเนินสูงในบริเวณที่เรียกว่าสามประสบ เพราะมีแม่น้ำ ๓ สายไหลมาบรรจบกัน คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ แม่น้ำรันตี ในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ได้รับอนุญาตจากกรมการศาสนาให้ใช้ชื่อว่า วัดวังก์วิเวการาม ซึ่งตั้งตามชื่ออำเภอวังกะ ในวัดมีการก่อสร้างเจดีย์จำลองแบบจากวัดมหาโพธิ เมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย เริ่มก่อสร้าง พ.ศ. ๒๕๑๘ แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๙

     ต่อมาทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้ก่อสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งเมื่อกักเก็บน้ำในปี พ.ศ. ๒๕๒๗ น้ำในเขื่อนเขาแหลมจะท่วมตัวอำเภอเก่ารวมทั้งหมู่บ้านชาวมอญ ทางวัดจึงได้ย้ายมาอยู่บนเนินเขาในที่ปัจจุบัน โดยทางราชการได้ช่วยเหลือในการอพยพผู้คนซึ่งมีอยู่ราว ๑,๐๐๐ หลังคาเรือน บนพื้นที่ ๑,๐๐๐ ไร่เศษ ส่วนบริเวณวัดหลวงพ่ออุตตมะเดิม ปัจจุบันจมอยู่ใต้น้ำ และมีชื่อเสียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen Thailand เป็นที่รู้จักในชื่อว่า วัดใต้น้ำ สังขละบุรี

ตำแหน่ง

ฝ่ายปกครอง

พ.ศ. ๒๕๐๔  เป็น เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม (เดิม)
พ.ศ. ๒๕๐๕  เป็น เจ้าอาวาสวัดศรีสุวรรณาราม
พ.ศ. ๒๕๐๙  เป็น พระกรรมวาจาจารย์
พ.ศ. ๒๕๑๑  เป็น พระอุปัชฌาย์
พ.ศ. ๒๕๑๒  เป็น เจ้าคณะตำบล
พ.ศ. ๒๕๑๓  เป็น เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม
พ.ศ. ๒๕๒๕  เป็น ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะอำเภอสังขละบุรี
พ.ศ. ๒๕๒๖  เป็น เจ้าคณะอำเภอสังขละบุรี

มรณภาพ


     หลวงพ่ออุตตมะ เข้ารับรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๗ ด้วยโรคไต โรคหัวใจ โรคปอด สมองขาดเลือดไปเลี้ยง ท่านไม่รู้สึกตัวและไม่สามารถลืมตาเองได้เป็นเวลากว่า ๑ ปี จนกระทั่งเกิดอาการติดเชื้ออย่างรุนแรง และมรณภาพจากการติดเชื้อในกระแสโลหิตจากภาวะปอดอักเสบ เมื่อเวลา ๗.๒๒ น. ของวันที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ อายุรวม ๙๗ ปี

สมณศักดิ์


พ.ศ. ๒๕๑๐ เป็น พระครูสังฆรักษ์ ฐานานุกรมใน พระราชวิสุทธิเวที (บุญมา คุณสมฺปนฺโน ป.ธ. ๙) วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพฯ
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ เป็น พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบล ชั้นโท ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ พระครูอุดมสิทธาจารย์
พ.ศ. ๒๕๒๒ เป็น พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบล ชั้นเอก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ในราชทินนามเดิม
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๔ เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญยก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ พระอุดมสังวรเถร [1]
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ เป็น พระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ พระราชอุดมมงคล พหลนราทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี [2]

ที่มา


1. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๙๘, ตอนที่ ๒๐๖ ง , ๑๗ ธันวาคม ๒๕๒๔, หน้า ๔
2. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๑๐๘, ตอนที่ ๒๑๓ ง, ๖ ธันวาคม ๒๕๓๔, หน้า ๔
wikipedia
พระราชาคณะชาวต่างประเทศ


แจ้งเพิ่มข้อมูล info@sangkhatikan.com

www.sangkhatikan.com สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ศึกษาข้อมูล และเป็นที่รวบรวมข้อมูลพระสังฆาธิการทั่วประเทศ
ทางผู้จัดทำขออนุญาติ เจ้าของรูปและข้อมูลทุกท่าน ที่นำมาเผยแพร่

พระสังฆาธิการ : sangkhatikan.com
สำนักงานweb : วัดสำโรงเหนือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๑๓๐
E-mail : info@sangkhatikan.com
Facebook